วิธีการเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับคุณ |
วิธีการเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับคุณ น้ำหอมเป็นหนึ่งในเครื่องสำอางที่ควรมีติดตัว เพราะน้ำหอมเป็นสิ่งที่แสดงความเป็นตัวคุณ รสนิยม และ อารมณ์ น้ำหอมสื่อความต้องการ และสร้างแรงดึงดูดอันน่าประทับใจให้เพศตรงข้าม การเลือกน้ำหอมให้เหมาะสมเป็นอีกประเด็นที่ไม่ควรมองข้าม
การเลือกน้ำหอมตามความทนนานของกลิ่น
: ความทนนานของกลิ่น EDP>EDT>EDC : ความฟุ้งของกลิ่น EDP>EDT>EDC
เวลาที่เหมาะสมที่จะไปเลือกซื้อน้ำหอม น้ำหอมที่จริงเลือกซื้อได้ทุกเวลา ขึ้นกับรสนิยม และช่วงโอกาสที่จะใส่น้ำหอมนั้นๆ แต่โดยทั่วไปควรเข้าใจไว้ว่าน้ำหอมกลิ่นหนึ่งอาจเหมาะกับเวลากลางวัน และอีกกลิ่นหนึ่งอาจเหมาะกับเวลากลางคืน หรือน้ำหอมที่มีกลิ่นอ่อน ๆ ก็เหมาะที่จะใช้ในหน้าร้อน ส่วนหน้าหนาวก็ควรใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นแรงมากขึ้น และเกร็ดการเลือกน้ำหอมโดยทั่วไปเป็นดังนี้ค่ะ - ก่อนที่เราจะลองน้ำหอมถ้าเป็นไปได้ไม่ควรที่จะรับประทานอาหารรสจัด มีกลิ่นฉุน หรือน้ำมันระเหยในตัวอาหาร เช่น กระเทียม หัวหอม วาซาบิ หรืออาหารที่มีกลิ่นน่นเอง - ไม่ควรออกกำลังกายให้เหนื่อยมากเกินไป - ไม่ควรไปเลือกซื้อนํ้าหอมในช่วงที่เราเพิ่งจะฟื้นจากอาการเจ็บป่วย หรือไม่สบาย หรือ เพิ่งสูบบุหรี่เสร็จ เพราะจะมีผลต่อการรับรู้กลิ่นทำให้กลิ่นนํ้าหอมที่เราสัมผัสเพี้ยนไปจากความเป็นจริง จุดที่ดีที่สุดของร่างกายในการลองฉีดนํ้าหอมนั้น ก็คือตรงบริเวณ “ข้อมือ” เลือกน้ำหอมหลายๆกลิ่นโดยไม่มึนเวียนหัว กรณีที่ลองนํ้าหอมมากกว่าหนึ่งกลิ่น เควรใช้ข้อมืออีกข้างหนึ่ง และถ้าลองนํ้าหอมมากกว่า 2 กลิ่นนั้น บริเวณที่ควรฉีดนํ้าหอมคือ บริเวณแขนที่ไล่จากข้อมือขึ้นไปเรื่อยๆนั่นเอง สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีผิวที่แพ้น้ำหอมให้ฉีดน้ำหอมลงบนผ้าเช็ดหน้าแล้วใส่ไว้ในกระเป๋า เสื้อผ้าแทนที่จะฉีดลงบนผิวตรงๆ วิธีนี้ช่วยได้ค่ะ และเราก็ไม่ควรที่จะตัดสินใจเลือกซื้อนํ้าหอมทันที เราควรทิ้งไว้อย่างน้อยที่สุด ประมาณ 20 นาที ถ้าเป็นไปได้ควรจะประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วค่อยตัดสินใจเลือก เพราะกลิ่นบางกลิ่นให้กลิ่นแรกที่ฉุน แต่กลิ่นที่เป็นหัวใจของน้ำหอม อาจจะหอมมากจนคุณต้องเสียดาย ว่าลองแล้วทำไมไม่ได้ซื้อ
ตำแหน่งที่เหมาะกับการฉีดน้ำหอม น้ำหอมจะระเหยได้ดีบนผิวเนื้อที่อุ่นและมีการหมุนเวียนโลหิตดี ดังนั้นจุดที่จะช่วยเร่งให้น้ำหอมส่งกลิ่นหอมได้มากและได้นานก็คือบรรดาจุดชีพจรของเรานั่นเอง เพราะในทุกจังหวะที่ชีพจรเต้นก็จะทำหน้าที่ทางอ้อมช่วยกระตุ้นให้กลิ่นหอม กระจายออกมาอย่างเป็นจังหวะต่อเนื่อง ฉะนั้นจึงควรฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร เช่น ข้อมือ, กระดูกไหปลาร้า, สะดือ, หรือแม้แต่บริเวณข้อพับขา
**ไม่ควรฉีดนํ้าหอมตรงบริเวณ ด้านหลังใบหูเพราะตรงบริเวณนี้กลิ่นนํ้าหอมและแอลกลอฮอล์จะระเหยไปอย่างรวดเร็วนั่นเอง บางคนก็จะฉีดนํ้าหอมหลังจากเราอาบนํ้า เสร็จใหม่ๆ ในขณะที่ผิวกำลังมีความชื้นอยู่ ซึ่งวิธีนี้ก็จะทำให้กลิ่นนํ้าหอมติดทนนานมากขึ้นค่ะ
ระดับกลิ่นของน้ำหอม สำคัญมากต่อการเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับบุคคลิก น้ำหอมจะมีกลิ่น 3 ระดับ ซึ่งค่อยๆเปลี่ยนไปตามกาลเวลา - Top nose กลิ่นแรก คือ กลิ่นที่จะได้รับทันทีที่ฉีดน้ำหอม จะมีลักษณะหอมสดชื่นและบางเบา กลิ่นแรกนี้จะอยู่ได้ประมาณ 15 นาที และจางหายไปอย่างรวดเร็ว - Middle nose กลิ่นกลาง ช่วงที่กลิ่นต่อไปจะฟุ้งกระจายตัวอย่างเต็มที่บนผิวกาย จะคงอยู่ประมาณ 2-4 ชั่วโมง กลิ่นกลางนี้ถือเป็นกลิ่นหัวใจของน้ำหอม - Base nose กลิ่นพื้นฐาน เป็นกลิ่นเข้มข้นที่สุดที่เหลืออยู่ ซึ่งจะแสดงกลิ่นเมื่อเวลาผ่านไป ประมาณ 4-6 ชั่วโมง และค่อย ๆ จางหายไปในที่สุด
การเก็บรักษาน้ำหอม ควรที่จะเก็บขวดนํ้าหอม ไว้ในสถานที่ ที่มีความเย็น มืด ฝาน้ำหอมปิดสนิท ซึ่งการเก็บนํ้าหอมตามวิธีนี้นั้นจะสามารถเก็บได้ถึง 3 ปีนับจากวันที่ผลิต โดยที่กลิ่นของนํ้าหอมก็จะไม่เปลี่ยนไป
กลุ่มของกลิ่น เพื่อการเลือกน้ำหอมที่เหมาะกับคุณ น้ำหอมกลุ่มนี้มักจะมีส่วนผสมของกลิ่นมัสก์ กลิ่นแบบเปลือกไม้ และกลิ่นแบบเครื่องเทศเล็กน้อยด้วย (Musky, Woody & Spicy)
เลือกน้ำหอมให้เหมาะกับคุณ ง่ายนิดเดียวค่ะ แต่เพื่อความมั่นใจ แนะนำใช้น้ำหอมขนาดทดลองก่อนซื้อขวดจริง
|
หน้าที่เข้าชม | 94,983 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 63,974 ครั้ง |
เปิดร้าน | 26 ก.พ. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |
หมายเลข Tracking No.